ลักษณะการยืน
หลักการยืน ที่สำคัญที่สุด คือไม่ควรยืนเท้าตาย ควรยืนโดยใช้เท้าใดเท้าหนึ่งนำหน้า(เท้าใดก็ได้)เพื่อการเคลื่อนไหว
ที่สะดวกขึ้นไม่ว่าจะไปข้างหน้า ขัางหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา การเคลื่อนที่ของเท้าที่ดี คือ การก้าวเท้าแบบสืบเท้า(Slide)
การเคลี่อนที่ของเท้า
- ในการเล่นกีฬา การเคลื่อนที่ของเท้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้เกิดความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว การเคลื่อนที่ที่เรียกว่า
"ฟุตเวิร์ค" นั้นต้องความเร็วมากๆ เพราะการเคลื่อนที่ของเท้าไม่เหมือนกัน แล้วแต่ลักษณะการตีลูกโดยมากจะใช้การสืบ
เท้า(Slide) เพราะมีการทรงตัวดี เคลื่อนที่ได้สะดวก เปลี่ยนทิศทางได้ง่าย โดยเฉพาะการตีลูกหลังมือ ต้องมีการเคลื่อนที่ของท้าเพื่อให้ตีทัน และสาเหตุที่ทำให้ตีไม่ทันก็เพราะการเคลื่อนที่ของเท้าไม่ดีนั่นเอง
การจับไม้
การจับไม้แบดบินตันควรจับให้คล่องมือ และรักษาหน้าไม้ให้ตีลูกได้ทั้งหน้ามือและหลังมือ ในการจับไม้ที่ดี ไม้แบดฯต้องตั้งฉากพื้นในลักษณะตะแคงจับที่ด้ามบริเวณที่มีผ้าพันหรือหนังพัน ให้สันมืออยู่ระดับเดียวกับไม้แบดฯ ตรงปลายสุดด้ามของไม้อยู่ที่ง่ามมือพอดี
การใช้ข้อมือและนิ้ว
การใช้ข้อมือและนิ้วสำคัญต่อการเล่นแบดบินตันมาก เพราะแบดบินตันต้องอาศัยจังหวะ ข้อมือและนิ้วช่วยในการตีลูกเพื่อจะได้
เสริมให้เกิดความแรงและเร็ว การบังคับลูกซ้ายขาวอยู่ที่ข้อมือเป็นสำคัญ เพราะถ้าใช้ข้อมือและนิ้วดีเท่าใด ก็มีโอกาศใช้
หน้าไม้ดีด้วย
การตีลูกจ้าาา..
- ในการตีแบดนั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุด...ก้อ..คือ...การตีลูก(ถ้าไม่งั้นจะเล่นได้ไงล่ะ เป่าลูกกันมั้ง..อิอิ)
ในการตีลูกนี้จะมีแบ่งออกเป็นหลายแบบด้วยกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็น การตีลูกหน้ามือ ที่เราตีๆกันอยู่นี่แหละค่ะ เช่น
ลูกตบ ลูกตีโต้ ลูกหยอด ฯลฯ ก็ต้องใช้ลูกหน้ามือทั้งนั้นแหละค่ะ และก็มี การตีลูกหลังมือ (ไม่ใช่หลังแหวนนะคะ)
ก็มีความสำคัญพอๆกันแหละคะ เอาเป็นว่า เราไปดูกันดีกว่านะคะว่า การตีลูกทั้งสองแบบนี้
ลูกหยอด
การจับไม้และยืนให้อยู่ในสภาพพร้อมตลอดเวลา การเล่นลูกหยอดต้องเล่นด้วยไหวพริบจริง และสามารถเล่น
ได้ทั้งหน้ามือและหลังมือ การหยอดลุกต้องตีเบาๆต้องฝึกให้ชำนาญก็จะรู้จังหวะของการหยอด
การเล่นลูกหยอดเพือหลอกล่อคู่ต่อสู้ให้ส่งลูกโด่งทำให้เราสามารถตบได้ง่ายหรือเราอาจไม่ตบแต่หยอดต่อก็ได้
วิธีนี้อาจทำให้คู่ต่อสู่เสสียหลักไม่สามารถรับลูกได้
ข้อปฏิบัติในการเล่นลูกหยอด
1. ยืนพร้อมเสมอที่จะทำการเล่น ว่าจะเล่นด้วยหน้ามือ หรือหลังมือ
2. การจับไม้พร้อมที่จะเล่นได้ด้วยหน้ามือ และหลังมือ
3. ตัดสินใจว่าจะเล่นลูกหยอดด้วยหน้ามือ หรือหลังมือ
4. ต้องทราบว่าเมื่อหยอดไปแล้วคู่ต่อสู้จะต้องโต้มาด้วยลูกใด
5. การหยอดที่ดีลูกต้องอยู่ใกล้ตาข่ายมากที่สุด
6. เท้านำในการหยอดควรใช้เท้าข้างเดียวกับมือที่ตี
7. ใช้ข้อมือช่วยเล่นในการหยอดมากๆ
ส่งลูก
เป็นการเล่นระยะแรกที่สำคัญ เพราะการส่งลูกที่ดีจะทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถทำแต้มได้ และมีโอกาสตบทำลาย
ลูกโต้ของคู่ต่อสู้ได้ง่าย
- หลักในการส่งลูก
1. จับไม้ได้พอเหมาะที่จะตีทั้งหน้ามือและหลังมือ
2. ยืนพร้อมเสมอโดยใช้เท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ด้านหน้า
3. หันด้านซ้ายมือเข้าหาตาข่าย เมื่อตีด้วยมือขวา
4. ปล่อยลูกลงด้วยมือซ้ายระหว่างเท้าซ้ายและเท้าขวา
5. ตีเมื่อลูกตกต่ำกว่าระดับสะเอว โดยการหงายมือข้างที่จับไม้แบดขึ้นตีเบาๆ ด้วยการใช้ข้อมือ ให้ลูกตกไปทาง
ด้านหลัง หรือเฉียดตาข่ายไปตกทางด้านหน้าก็ได้แล้วแต่ประเภทของการเล่น
6. ในการส่งลูกเท้าทั้งสอง ต้องอยู่ในสนามของฝ่ายส่งลูกทั้งสองเท้า ไม่เคลื่อนที่ไปก่อนที่จะได้ส่งลูกแล้ว
การตีลูกตบ
การตีลูกตบเป็นลูกที่สำคัญ เพราะเป็นทั้งลูกโต้และลูกทำคะแนน ในการเล่นลูกตบมีหลักปฏิบัติดังนี
1. ถ้าเป็นลูกโด่งเกือบข้ามศรีษะ จะตบโดยใช้ข้อมือ การตบแรงอาจยกเท้าใดเท้าหนึ่งขึ้นเพื่อเป็นการถ่ายน้ำหนัก
2. ถ้าเป้นลูกโด่งเฉียงไปทางขวา ต้องเขย่งตัวตบ หรือกระโดดตบ จะตบลูกไปทางด้านซ้าย หรือด้านขวา
ขึ้นอยู่กับการพลิกหน้าไม้
3. ถ้าเป็นลูกมาทางด้านซ้ายมือต้องตบด้วยลูกหลังมือ
4. ต้องตบทแยงให้เฉียดตาข่ายลงพื้น ให้ตกลงพื้นให้ห่างคู่ต่อสู้มากๆ หรือไม่ก็ให้ถูกตัวคู่ต่อสู้ได้ก็ยิ่งดี
การแข่งขันประเภทเดี่ยว
การแข่งขันประเภทเดี่ยวเป็นการทดสอบสมรรถภาพ ทดสอบความอดทน
ทดสอบพลังจิต ความแม่นยำของผู้เข้าแข่งขันดังนั้นผู้เล่นจึงควรมีลักษณะดังนี้
1. ความสมบูรณ์ของร่างกาย
2. ความแม่นยำในการตีลูก การบังคับวิถีของลูก
3. มีพลังของจิตใจดีในการแข่งสู้ ในการตีลูกแต่ละครั้งมีหลักเกณฑ์ว่า
1. ให้คู่ต่อสู้วื่งไกลที่สุด หรือวิ่งให้มากที่สุด
2. ให้คู่ต่อสู้เสียแรงมากที่สุด
3. ให้ตีลูกกลับมาได้ยากที่สุด
การเล่นประเภทคู่
- 1. เมื่อเริ่มเล่นแต่ละครั้ง ฝ่ายที่ได้สิทธิ์ส่งลูกจะต้องเริ่มส่งลูกจากสนามส่งลูกทางขวามือ
2. ผู้รับลูกเท่านั้นเป็นผู้ตีลูกกลับไป ถ้าลูกถูกตัวหรือคู่ขาของผู้รับลูกตีกลับไป ผู้ส่งได้หนึ่งแต้ม
3. หลังจากที่รับลูกแล้ว ผู้เล่นของฝ่ายส่งลูกตีกลับไป และอีกฝ่ายก็ตีกลับมาทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าลูกไม่อยู่ในการเล่น
3.1 หลังจากที่รับลูกที่ส่งมาแล้วผู้สามารถตีโต้จกที่ไหนๆก็ได้ภายในสนามของตนโดยมีตาข่ายกั้น
4. ถ้าฝ่ายรับทำลูกเสีย ฝ่ายส่งได้หนึ่งแต้ม และผู้ส่งยังคงได้ส่งลูกอีก
4.1 ถ้าฝ่ายส่งลูกทำลูกเสียผู้ส่งลูกหมดสิทธิ์ในการส่งลูก โดยผู้เล่นทั้งสองฝ่ายไม่ได้แต้ม
5. ผู้เล่นที่มีสิทธิ์ส่งลูกในตอนเริ่มต้นของแต่ละเกมจะส่งลูกหรือรับลูกในสนามส่งลูกทางขวามือ เมื่อผู้เล่นฝ่ายนั้น
ไม่ได้แต้มในเกมนั้นเป็นเลขคู่ และในสนามส่งลูกทางซ้ายมือ เมื่อแต้มเป็นเลขคี่
5.1 ผู้เล่นที่เป็นผู้รับลูกในตอนเริ่มต้นของแต่ละเกม จะรับลูกหรือส่งลูกในสนามส่งลูกทางขวามือ เมื่อผู้เล่นฝ่ายนั้น
ไม่ได้แต้มหรือ แต้มเป็นเลขคู่ และในสนามส่งลูกทางซ้ายมือเมื่อแต้มเป็นเลขคี่
5.2 คู่ขาของผู้เล่นต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันในทางตรงข้าม
6. การส่งลูกทุกครั้ง จะต้องส่งจากสนามส่งลูกทแยงมุมตรงข้าม ยกเว้นตามที่ได้ระบุไว้ในกติกาข้อ 14,16
7. สิทธิ์การส่งลูกผ่านติดต่อกันจากผู้ส่งคนแรกของแต่ละเกมไปยังผู้รับลูกคนแรกในเกมนั้น และจากผู้เล่นคนยั้ยไปยังคู่ขา
และแล้วต่อไปยังผู้เล่นคนหนึ่งของฝ่ายตรงข้าม
8. ห้ามมิให้ผู้เล่นส่งลูกหรือรับลูกก่อนถึงเวลาที่ตนเป็นผู้ส่งและผู้รับ
9. ถ้าผู้เล่นคนใดคนหนึ่งของฝ่ายชนะจะเป็นผู้ส่งลฤูกด่อนก็ได้และผู้เล่นคนใดคนหนึ่งของฝ่ายแพ้จะเป็นผู้รับก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น